loading...
ครอบครัวของหนูน้อยวัย 8 ขวบ ที่ถูกกรอกยาบ้า-ข่มขืนจนเสียชีวิต พร้อมทนาย เรียกร้องขอความเป็นธรรมจากตำรวจ หลังจากพ่อเด็กตกเป็นผู้ต้องหา แต่ยังมีพยานหลักฐานมัดตัวแค่ 80 เปอร์เซ็นต์ พร้อมยืนยันไม่เคยรับสารภาพ
เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. ที่เรือนจำจังหวัดตรัง นางบี (นามสมมติ) แม่ของ ด.ญ.เก๋ (นามสมมติ) อายุ 8 ขวบ ที่เสียชีวิตจากการถูกคนร้ายบังคับเสพยาบ้า และลงมือข่มขืนจนเสียชีวิต เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม ที่ผ่านมา และเป็นภรรยาของ นายเอ (นามสมมติ) พ่อของ ด.ญ.เก๋ ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาในคดีนี้ พร้อมมารดา ลูกๆ และ นายยุทธศาสตร์ โทรัตน์ ทนายความ สำนักกฎหมาย ยุทธศาสตร์ โทรัตน์ กรุงเทพฯ ได้เรียกร้องความเป็นธรรมกับครอบครัว โดยขอให้ตำรวจปล่อยตัวพ่อเด็ก โดยระบุว่าพยานหลักฐานที่มียังไม่เพียงพอจะกล่าวหา เพราะผลดีเอ็นเอยังไม่ออกมา
นายยุทธศาสตร์ ทนายความ กล่าวว่า การทำงานของตำรวจเป็นระบบการกล่าวหา จึงต้องพยายามรวบรวมพยานหลักฐานว่าจะมีอะไรเกี่ยวข้องบ้างในการกระทำความผิดครั้งนี้ จึงขอชื่นชมการทำงานของตำรวจ แต่ประเด็นที่กระทบกับครอบครัว คือ การที่ตำรวจแถลงว่า พยานหลักฐานประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ ที่ออกมามัดตัวพ่อและไม่มีทางปฏิเสธ ดังนั้น ตนเองมองว่าพยานหลักฐานที่ตำรวจเอามาอ้างขณะนี้ เป็นหลักฐานพยานแวดล้อม เก็บได้จากบ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งโดยลำพังพยานหลักฐานประเภทนี้ไม่สามารถจะพิสูจน์ได้ว่า พ่อเป็นผู้กระทำความผิด จะต้องมีพยานหลักฐานอื่นประกอบด้วย โดยเฉพาะคราบอสุจิ หรือดีเอ็นเอ ที่อยู่ในร่างกายเด็ก ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญที่สุดในคดีล่วงละเมิดทางเพศ
ทั้งนี้ ถ้าพ่อข่มขืนลูกจริง หรือมีคนอื่นข่มขืนลูก จะต้องพบคราบอสุจิในตัวเด็กอย่างแน่นอน ซึ่งถ้าผลออกมาว่าพบดีเอ็นเอที่ได้จากคราบอสุจิของพ่อในตัวเด็ก ถึงตอนนั้นตนเองก็ขอเรียกร้องให้ตำรวจปล่อยตัวผู้ต้องสงสัยรายอื่นๆ ทั้งหมด แต่ในทางตรงกันข้าม หากปรากฏว่า คราบอสุจิที่พบเป็นของคนอื่น ไม่ใช่เป็นของพ่อเด็ก ก็อยากเรียกร้องให้ผลพิสูจน์ตรงนี้เป็นประโยชน์กับลูกความของตนด้วย เพราะรูปการณ์ขณะนี้ ไม่ว่าผลพิสูจน์จะออกมาเป็นอย่างไร พ่อเขาก็จะต้องโดนข้อหาอย่างแน่นอนว่า กระทำการคนเดียวหรือร่วมกระทำกับคนอื่นแน่นอน
loading...
จึงอยากให้ตำรวจตั้งประเด็นสอบสวนคดีให้ชัดเจนด้วย อย่าพยายามลากพ่อเด็กเข้าไปร่วมเป็นผู้กระทำความผิด ส่วนที่ตำรวจแถลงยืนยันพ่อเด็กรับสารภาพว่า พ่อเสพยาเข้าไป จึงควบคุมตัวเองไม่ได้แล้วข่มขืนลูก จากการพูดคุยกับพ่อเด็กก่อนแถลงข่าว เขายืนยันว่าไม่เคยรับสารภาพอยางนั้น อยากให้ตำรวจแสดงหลักฐานที่พ่อรับสารภาพด้วยว่า มีจริงหรือไม่ เพราะตอนนี้พ่อเด็กและครอบครัวได้รับความเสียหายไปแล้ว และจะไม่ส่งผลดีต่อการต่อสู้คดีความในชั้นศาล เพราะเท่ากับว่าพ่อเด็กมากลับคำให้การในภายหลัง ซึ่งมีพิรุธและสวนทางกับที่พ่อเด็กบอกว่าไม่เคยรับสารภาพใดๆ
ส่วนหลังจากนี้ก็จะต้องรอผลดีเอ็นเอที่เหลือเท่านั้น ซึ่งจะเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่จะตัดหลักฐานอื่นๆ ออกไปอย่างสิ้นเชิง และทางตำรวจก็ไม่ได้บอกมาชัดเจนว่า ผลจะออกมาเมื่อไหร่ แต่ก็เชื่อว่าจะต้องไม่เกินระยะเวลาผัดฟ้อง หรือภายใน 84 วัน แน่นอน และถ้าไม่พบคราบอสุจิ หรือดีเอ็นเอของใครในร่างกายเด็ก ตำรวจก็จะเอาหลักฐาน 80 เปอร์เซ็นต์ นี้เอามามัดตัวลูกความตนเอง ซึ่งเป็นพ่อเด็ก และส่งฟ้องศาลอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม เฉพาะพยานหลักฐานที่ตำรวจอ้างว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ถ้าขึ้นศาลซึ่งจะมีการซักค้าน ก็จะไม่สามารถอนุมานได้ว่า จำเลยกระทำความผิด โดยศาลจะใช้หลักฐานดังกล่าวลงโทษจำเลยคงยาก
อย่างไรก็ตาม คดีนี้ พล.ต.ต.ดาวลอย เหมือนเดช ผบก.ภ.จว.ตรัง ออกมายืนยันว่า ตำรวจพร้อมให้ความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย และพยายามรวบรวมพยานหลักฐานให้ละเอียด หรือรอบคอบมากที่สุด
loading...
ทีมา:http://www.visahealthy.com/2016/06/blog-post_42.html
0 Response to "แม่ดญ.เหยื่อกรอกยาบ้า-ข่มขืนจนตาย เรียกร้องปล่อยตัวสามี-อ้างพยานหลักฐาน"
แสดงความคิดเห็น